เซียน"ต้น เมืองนนท์" ลูกไม้หล่นไม่ไกล"ต

เซียน"ต้น เมืองนนท์" ลูกไม้หล่นไม่ไกล"ต้อย"



ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น "ยุทธภูมิ เตชะวิภาค" หรือในวงการพระเครื่องรู้จักในนาม "ต้น เมืองนนท์" บุตรชายแสนรักของเซียนพระชื่อดัง "ต้อย เมืองนนท์" หรือ นายพิศาล เตชะวิภาค อุปนายกสมาคมคนที่หนึ่งของสมาคมพระเครื่องพระบูชาไทย


"ตั้งแต่ผมเกิดมาก็คลุกคลีอยู่กับวงการพระเครื่องมาตั้งแต่เด็ก ด้วยการซึมซับมาจากคุณพ่อ แม้จะมีความคิดไม่อยากเป็นเซียนพระเครื่อง ตอนแรกผมออกไปทำธุรกิจหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นคาราโอเกะ ผับ บาร์ แต่พอเราย่างอายุประมาณ 23-24 ปี เวลาใครมาถามว่า ลูกชายต้อย เมืองนนท์ ช่วยดูพระให้ผมหน่อย เราก็เกิดความอายตัวเองว่าเราเป็นลูกของเซียนพระชื่อดัง แต่ทำไมเราดูพระไม่เป็น กลายเป็นจุดเริ่มต้น ให้เราเริ่มสนใจพระเครื่อง" ต้น เมืองนนท์ เผยเรื่องราวช่วงแรกเริ่มเข้าวงการพระเครื่อง

"พระองค์แรกที่ผมปล่อยเช่าได้ จุดประกายให้ผมสนใจพระเครื่อง คือ พระหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน จ.พิจิตร รุ่นจอบเล็ก ตอนนั้นผมปล่อยเช่าไปเมื่อประมาณ 5 ปีที่แล้ว ราคาประมาณหนึ่งล้านสองแสนบาท ผมเช่ามาในราคาหนึ่งล้านหนึ่งแสนบาท เท่ากับว่าผมกำไรไปหนึ่งแสนบาท เกิดความรู้สึกดี จากนั้นผมจึงทิ้งกิจการอื่น หันมาทำตรงนี้"

ต้น เมืองนนท์ บอกเล่าต่อว่า พระเครื่องได้ให้อะไรกับเรามากมาย หนึ่ง สมาธิ เพราะเวลาเราส่องพระ ถ้าเราไม่มีสมาธิ เราจะไม่สามารถตรวจสอบของจริงหรือปลอมได้ สมัยก่อนผมเป็นคนสมาธิสั้น จดจำอะไรได้น้อยมาก แต่พอเริ่มมาเข้าสู่วงการพระเครื่องเต็มตัว เหมือนกับว่าสมาธิเราดีขึ้น ด้วยเราต้องจำ คือ จุดตำหนิ สองเนื้อพระ สามอายุพระ ถ้าเราไม่มีสมาธิหรือว่าเราไม่มีความมั่นคงที่ดี เราจะไม่สามารถจับจุดตรงนี้ได้

"พระเครื่องสำคัญที่สุด คือ พิมพ์พระ เนื้อพระ ถ้าเราพลาด สมมติเราซื้อมาล้านนึงมันก็จะหายไปเลยล้านนึงไม่สามารถปล่อยต่อได้ ตรงนี้สำคัญ ตรงนี้สอนผมได้เยอะ"

ต้น เมืองนนท์ เผยว่า "พระเครื่องวัตถุมงคลที่ดี ไม่ได้ขึ้นอยู่กับเรื่องราคา พระที่ดีส่วนมากจะอยู่ที่ใจเรามากกว่า คือถ้าใจเรานับถือ ต่อให้เราห้อยของเก๊ เคยมีคนโบราณเค้าว่ากันว่าต่อให้เป็นของเก๊หรือรูปเหมือนที่ไม่ได้ปลุกเสกก็แล้วแต่ แต่ถ้าใจเราศรัทธา นั่นแหละพระดีที่สุด"

"ทุกวันนี้ ผมมองตัวเองว่าเป็นนักสะสม นักสะสมแลกเปลี่ยน คือ เซียนพระที่แท้จริงคือซื้อเองขายเองไม่ต้องพึ่งตาใคร แต่อย่างผมพูดตรงๆ อย่างไม่อายว่า บางครั้งพระบางองค์ ผมยังต้องพึ่งตาคนอื่นอยู่ เนื่องจากประสบ การณ์ผมยังน้อยอยู่"

ด้วยความที่เป็นบุตรชายของต้อย เมืองนนท์ เซียนพระรุ่นใหญ่ของวงการ ถูกคาดหวังให้เป็นเซียนพระรุ่นต่อไปหรือไม่

ต้น เมืองนนท์ กล่าวว่า บางครั้งรู้สึกกด ดันเพราะคนที่จะเป็นผู้ใหญ่ในวงการได้ ต้องมีคนเคารพนับถือ ต้องเก่ง ต้องรู้จักเข้าใจคน ต้องคุมคนในวงการได้ คนในวงการพระเครื่อง บางคนจะนึกว่าเป็นคนกลุ่มน้อยๆ แค่กลุ่มคนในห้างพันธุ์ทิพย์ฯ กลุ่มในท่าพระจันทร์ แต่จริงๆ แล้ว วงการพระนี่คือทั่วประเทศ ไม่ว่าจะระดับไหน จะรากหญ้าหรือระดับเศรษฐีขนาดไหนทุกคนเล่นพระหมด ทั้งนี้ คนที่จะมาเป็นผู้ใหญ่ในวงการได้ ต้องเป็นคนที่รู้จักคนเยอะ ต้องช่วยสังคมด้วย อะไรหลายอย่าง ดังนั้น การคาดหวังว่าผมจะสืบทอดต่อไป พูดง่ายๆ ว่ามันกดดันมาก

ต้นเปิดเผยถึงพระเครื่องที่นับถือว่า เป็นหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน จ.พิจิตร เนื่องจากว่าคุณแม่เป็นคนพิจิตร ได้ซึมซับมา ไปไหว้ท่านมาตั้งแต่เด็ก คือ รูปหล่อหลวงพ่อเงิน เพราะท่านมรณะมาเป็นร้อยปีแล้ว นับถือมาตั้งแต่เด็ก

ท้ายที่สุด ต้น เมืองนนท์ ให้ทัศนะมุมมองต่อวงการพระเครื่องหลังจากที่ได้เข้ามาสัมผัส ว่า "สมัยก่อนผมเคยคิดแค่ว่า พระเครื่องก็เหมือนกันหมด แค่ซื้อมาขายไป แต่พอมาเล่นพระจริงๆ ได้รู้เกี่ยวกับพุทธคุณท่าน เกี่ยวกับจริยาวัตรของพระบางองค์ เหมือนกับเราได้มีสมาธิขึ้น เรามีจิตใจฝักใฝ่ธรรมะขึ้นด้วย พอซึมซับมาได้หมดทุกอย่าง ก็เป็นอะไรที่ต้องลองสัมผัสด้วยตัวเองแล้วจะรู้"

ความคิดเห็น