เซียนฤทธิ์ (คงฤทธิ์ บัวบุญ) ศึกษาพระกรุนาดูน หรือ พระกรุพระธาตุนาดูน
คนในวงการพระเครื่องขนานนาม "เซียนฤทธิ์" ชื่อจริง "คงฤทธิ์ บัวบุญ" ประธานสภาเกษตรกรจังหวัดมหาสารคาม เป็นอีกคนหนึ่งซึ่งชอบสะสมพระเครื่องและเครื่องรางของขลังมานานกว่า 30 ปี จนเป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดีของบรรดานักสะสมนิยมพระเครื่องและวัตถุมงคลเมืองมหาสารคาม
"การแขวนพระเครื่องก็ เพื่อเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจ คอยกระตุ้นเตือนให้ประกอบแต่กรรมดี พระพุทธศาสนาสอนให้เชื่อในเรื่องของกฎแห่งกรรมว่าทำดีต้องได้ดี ทำชั่วต้องได้ชั่ว หากเราประกอบแต่กรรมดีมีเมตตาธรรมะพุทธคุณย่อมจะคุ้มครองเราตลอดไป" เป็นหลักในการดำเนินชีวิตประจำตัวของนายคงฤทธิ์ ที่ยึดถือมาโดยตลอด
"คงฤทธิ์ บัวบุญ" ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานสภาเกษตรกรจังหวัดมหาสารคาม, สมาชิกสภาเกษตรกรแห่งชาติ และเป็นประธานคณะกรรมการส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพในการแข่งขันทางการเกษตร สิทธิที่ดินทำกิน สิทธิการเข้าถึงแหล่งทุน และหนี้สินการเกษตร
เซียนฤทธิ์ เป็นคนอำเภอวาปีปทุม จ.มหาสารคาม ปัจจุบันอายุ 60 ปี เส้นทางดำเนินชีวิต เคยรับราชการเป็นครูที่โรงเรียนวาปี ปทุม บ้านเกิด นานถึง 27 ปี จนถึงปี พ.ศ.2554 จึงตัดสินใจลาออกจากราชการ เนื่อง จากอยากทำงานกับมวลชนเป็นปากเป็นเสียงให้กับเกษตรกรชาวไร่ชาวนาผู้ยากไร้
ต่อมาได้รับการเลือกตั้งเป็นผู้แทนเกษตรกรระดับตำบล (ต.หนองทุ่ม) เป็นสมาชิกสภาเกษตรกรจังหวัดมหาสารคาม (อ.วาปีปทุม) เป็นประธานสภาเกษตรกรจังหวัดมหาสารคาม และเป็นสมาชิกสภาเกษตรกรแห่งชาติ
แม้จะมีหน้าที่การงานของสภาเกษตรกระดับจังหวัด แต่ยามว่างจากงานประจำ เซียนฤทธิ์ จะ ใช้เวลาส่วนตัว ศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับพระเครื่อง วัตถุมงคล และเครื่องรางของขลัง โดยเฉพาะวัตถุมงคลและเครื่องรางของขลังสายเมืองสมุทรปราการ พร้อมทั้งนำกล้องมาส่องดูพระเครื่องด้วยความนิยมชมชอบ รวมทั้ง พูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์วิชาความรู้ทางด้านพระเครื่องกับเซียนพระรุ่น เล็กรุ่นใหญ่
เซียนฤทธิ์ บอกเล่าเรื่องราวความชื่นชอบการสะสมพระเครื่องสายเมืองมหาสารคามว่า "ผมให้ความสนใจพระเครื่องมา ตั้งแต่สมัยเป็นหนุ่มยังรับราชการครู แต่ตอนนั้นยังไม่สามารถที่จะเก็บสะสมได้อย่างจริงจัง เนื่องจากยังมีทุนรอนเป็นของตัวเองจำนวนไม่มาก แต่หลังจากทำงานเก็บเงินเป็นกอบเป็นกำ จึงเริ่มสะสมพระเครื่องเป็นต้นมา"
"ผมมีความศรัทธาในพระเครื่องเมืองมหาสารคามเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะ พระกรุนาดูน หรือ พระกรุพระธาตุนาดูน พระพิมพ์กรุโบราณอายุเก่าแก่นับพันปี เป็นพระที่รู้จักกันกว้างขวางในหมู่นักเล่นพระและผู้นิยมสะสมพระเครื่อง ผมก็เริ่มศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับประวัติ จากนั้นเริ่มเก็บสะสมไว้"
ในปี พ.ศ.2522 พระกรุนาดูน อ.นาดูน จ.มหาสารคาม แตกกรุครั้งใหญ่เป็นข่าวแพร่สะพัดออกไปทั่วประเทศ "คงฤทธิ์ บัวบุญ" เป็นคนหนึ่งที่เดินทางไปดูเพราะ อ.นาดูน ห่างจาก อ.วาปีปทุม แค่ประมาณ 30 กิโลเมตรเท่านั้น
"ผมจำได้ว่ามีประชาชนจากทุกสารทิศนับหมื่นคน พากันนำจอบเสียมไปขุดหาพระกรุพระธาตุนาดูนในทุ่งนาจนมืดฟ้ามัวดิน เมื่อชาวบ้านได้พระขึ้นมาก็เปิดให้คนเช่าบูชากันที่ปากหลุม ครั้งแรกเมื่อได้เห็นพระกรุพระธาตุนาดูน ก็เกิดศรัทธาอันแรงกล้าอยากได้พระมาสักการบูชา จึงตัดสินใจเช่าพระแผงเนื้อดินมา 1 ชิ้น มีพระอยู่ 15 องค์ จากนั้นก็นำมาเลี่ยมบูชาอธิษฐานขึ้นห้อยคอ ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้เป็นเวลากว่าสามสิบปี เป็นวัตถุมงคลที่ห้อยคอติดตัวไว้ตลอดเวลา รักและหวงแหนศรัทธามาก เนื่องจากเป็นพระกรุเก่าแก่ยุคสมัยทวารวดี และเป็นพระกรุท้องถิ่น"
นอกจากนี้ เซียนฤทธิ์ ยังเลื่อมใสศรัทธาพระเกจิอาจารย์ท้อง ถิ่นหลายรูป อาทิ หลวงปู่สิงห์ คัมภีโร วัดบ้านศรีสุข อ.กันทรวิชัย, หลวงปู่สา วัดบ้านเหล่า อ.พยัคฆภูมิพิสัย, หลวงปู่ป้อ วัดบ้านเอียด อ.เมือง, หลวงปู่ซุน วัดเสือโก้ก อ.วาปีปทุม เป็นต้น
เซียนฤทธิ์ บอกกล่าวถึงหลักการในวงการพระเครื่อง เครื่องรางของขลัง ว่าสิ่งสำคัญสำหรับนักสะสมพระเครื่อง รุ่นใหม่นั้น ควรมีสัมมาคารวะต่อผู้ใหญ่ มีความอ่อนน้อมถ่อมตน มีความกตัญญูรู้คุณ ผู้ใหญ่ที่เคยให้ความรู้ ให้วิชา และสอนการดูพระเครื่อง เครื่องรางของขลัง แค่ครั้งเดียวก็ถือว่า เป็นอาจารย์แล้ว อย่าลืมบุญคุณครูบาอาจารย์ที่ให้วิชา ถ้าทำได้จะทำให้เจริญรุ่งเรือง ประสบความสำเร็จในวิชาชีพและในวงการพระเครื่องด้วย
คนในวงการพระเครื่องขนานนาม "เซียนฤทธิ์" ชื่อจริง "คงฤทธิ์ บัวบุญ" ประธานสภาเกษตรกรจังหวัดมหาสารคาม เป็นอีกคนหนึ่งซึ่งชอบสะสมพระเครื่องและเครื่องรางของขลังมานานกว่า 30 ปี จนเป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดีของบรรดานักสะสมนิยมพระเครื่องและวัตถุมงคลเมืองมหาสารคาม
"การแขวนพระเครื่องก็ เพื่อเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจ คอยกระตุ้นเตือนให้ประกอบแต่กรรมดี พระพุทธศาสนาสอนให้เชื่อในเรื่องของกฎแห่งกรรมว่าทำดีต้องได้ดี ทำชั่วต้องได้ชั่ว หากเราประกอบแต่กรรมดีมีเมตตาธรรมะพุทธคุณย่อมจะคุ้มครองเราตลอดไป" เป็นหลักในการดำเนินชีวิตประจำตัวของนายคงฤทธิ์ ที่ยึดถือมาโดยตลอด
"คงฤทธิ์ บัวบุญ" ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานสภาเกษตรกรจังหวัดมหาสารคาม, สมาชิกสภาเกษตรกรแห่งชาติ และเป็นประธานคณะกรรมการส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพในการแข่งขันทางการเกษตร สิทธิที่ดินทำกิน สิทธิการเข้าถึงแหล่งทุน และหนี้สินการเกษตร
เซียนฤทธิ์ เป็นคนอำเภอวาปีปทุม จ.มหาสารคาม ปัจจุบันอายุ 60 ปี เส้นทางดำเนินชีวิต เคยรับราชการเป็นครูที่โรงเรียนวาปี ปทุม บ้านเกิด นานถึง 27 ปี จนถึงปี พ.ศ.2554 จึงตัดสินใจลาออกจากราชการ เนื่อง จากอยากทำงานกับมวลชนเป็นปากเป็นเสียงให้กับเกษตรกรชาวไร่ชาวนาผู้ยากไร้
ต่อมาได้รับการเลือกตั้งเป็นผู้แทนเกษตรกรระดับตำบล (ต.หนองทุ่ม) เป็นสมาชิกสภาเกษตรกรจังหวัดมหาสารคาม (อ.วาปีปทุม) เป็นประธานสภาเกษตรกรจังหวัดมหาสารคาม และเป็นสมาชิกสภาเกษตรกรแห่งชาติ
แม้จะมีหน้าที่การงานของสภาเกษตรกระดับจังหวัด แต่ยามว่างจากงานประจำ เซียนฤทธิ์ จะ ใช้เวลาส่วนตัว ศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับพระเครื่อง วัตถุมงคล และเครื่องรางของขลัง โดยเฉพาะวัตถุมงคลและเครื่องรางของขลังสายเมืองสมุทรปราการ พร้อมทั้งนำกล้องมาส่องดูพระเครื่องด้วยความนิยมชมชอบ รวมทั้ง พูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์วิชาความรู้ทางด้านพระเครื่องกับเซียนพระรุ่น เล็กรุ่นใหญ่
เซียนฤทธิ์ บอกเล่าเรื่องราวความชื่นชอบการสะสมพระเครื่องสายเมืองมหาสารคามว่า "ผมให้ความสนใจพระเครื่องมา ตั้งแต่สมัยเป็นหนุ่มยังรับราชการครู แต่ตอนนั้นยังไม่สามารถที่จะเก็บสะสมได้อย่างจริงจัง เนื่องจากยังมีทุนรอนเป็นของตัวเองจำนวนไม่มาก แต่หลังจากทำงานเก็บเงินเป็นกอบเป็นกำ จึงเริ่มสะสมพระเครื่องเป็นต้นมา"
"ผมมีความศรัทธาในพระเครื่องเมืองมหาสารคามเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะ พระกรุนาดูน หรือ พระกรุพระธาตุนาดูน พระพิมพ์กรุโบราณอายุเก่าแก่นับพันปี เป็นพระที่รู้จักกันกว้างขวางในหมู่นักเล่นพระและผู้นิยมสะสมพระเครื่อง ผมก็เริ่มศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับประวัติ จากนั้นเริ่มเก็บสะสมไว้"
ในปี พ.ศ.2522 พระกรุนาดูน อ.นาดูน จ.มหาสารคาม แตกกรุครั้งใหญ่เป็นข่าวแพร่สะพัดออกไปทั่วประเทศ "คงฤทธิ์ บัวบุญ" เป็นคนหนึ่งที่เดินทางไปดูเพราะ อ.นาดูน ห่างจาก อ.วาปีปทุม แค่ประมาณ 30 กิโลเมตรเท่านั้น
"ผมจำได้ว่ามีประชาชนจากทุกสารทิศนับหมื่นคน พากันนำจอบเสียมไปขุดหาพระกรุพระธาตุนาดูนในทุ่งนาจนมืดฟ้ามัวดิน เมื่อชาวบ้านได้พระขึ้นมาก็เปิดให้คนเช่าบูชากันที่ปากหลุม ครั้งแรกเมื่อได้เห็นพระกรุพระธาตุนาดูน ก็เกิดศรัทธาอันแรงกล้าอยากได้พระมาสักการบูชา จึงตัดสินใจเช่าพระแผงเนื้อดินมา 1 ชิ้น มีพระอยู่ 15 องค์ จากนั้นก็นำมาเลี่ยมบูชาอธิษฐานขึ้นห้อยคอ ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้เป็นเวลากว่าสามสิบปี เป็นวัตถุมงคลที่ห้อยคอติดตัวไว้ตลอดเวลา รักและหวงแหนศรัทธามาก เนื่องจากเป็นพระกรุเก่าแก่ยุคสมัยทวารวดี และเป็นพระกรุท้องถิ่น"
นอกจากนี้ เซียนฤทธิ์ ยังเลื่อมใสศรัทธาพระเกจิอาจารย์ท้อง ถิ่นหลายรูป อาทิ หลวงปู่สิงห์ คัมภีโร วัดบ้านศรีสุข อ.กันทรวิชัย, หลวงปู่สา วัดบ้านเหล่า อ.พยัคฆภูมิพิสัย, หลวงปู่ป้อ วัดบ้านเอียด อ.เมือง, หลวงปู่ซุน วัดเสือโก้ก อ.วาปีปทุม เป็นต้น
เซียนฤทธิ์ บอกกล่าวถึงหลักการในวงการพระเครื่อง เครื่องรางของขลัง ว่าสิ่งสำคัญสำหรับนักสะสมพระเครื่อง รุ่นใหม่นั้น ควรมีสัมมาคารวะต่อผู้ใหญ่ มีความอ่อนน้อมถ่อมตน มีความกตัญญูรู้คุณ ผู้ใหญ่ที่เคยให้ความรู้ ให้วิชา และสอนการดูพระเครื่อง เครื่องรางของขลัง แค่ครั้งเดียวก็ถือว่า เป็นอาจารย์แล้ว อย่าลืมบุญคุณครูบาอาจารย์ที่ให้วิชา ถ้าทำได้จะทำให้เจริญรุ่งเรือง ประสบความสำเร็จในวิชาชีพและในวงการพระเครื่องด้วย
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น